ทำไม??เราถึงไม่ควรทานน้ำมันงา
วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องที่หลายๆคนสนใจ หลายๆคนถามมาว่า
นำ้มันงา...ดีไหม?
ควรจะทานไหม?
ควรจะบริโภคเสริมอาหารไหม?
ศ.ดร.ปรัชญา : ในความคิดของผม งานี้คืองาดำ งาขาว งาแดงนี้ เมื่อเอางามาแล้วบีบน้ำมันออกมา ก็จะได้น้ำมัน และเนื้องา
เนื้องา: เราสามารถที่จะนำมาใช้เป็นเหมือนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเราทำอยู่
น้ำมันงา:เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัย ว่าอาจารย์คิดอย่างไร? อาจารย์ตอบ.....
เป็นผม ผมไม่กินครับ!!!
เหตุผลเพราะอะไร?
ในน้ำมันงา แม้ว่าจะมีเซซามินจำนวนมากก็ตาม แต่เมื่อคิดคำนวนแล้วท่านทราบไหมครับว่า ในน้ำมันงานมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ผมอยากจะชีแจง เอาข้อมูลมาให้พวกเราเพิ่มเติม
ในน้ำมันงา 100 กรัม
มีไขมันอิ่มตัว 14.2 กรัม
มีไขมันอิ่มตัวพันธะคู่เดี่ยว 39.7 กรัม
มีไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่หลายคู่ 41.7%
ซึ่งรวมกันแล้วเกือบ 100% คือพูดง่ายๆว่า ในน้ำมันงา 100กรัม เป้นไขมันไปแล้วเกือบ 100 กรัมเลยทีเดียว ก็คือเกือบจะ 100% เป็นน้ำมัน เป็นไขมัน
เพราะฉะนั้นสมมุติว่าคุณกินน้ำมันงา ยกตัวอย่างเช่น 1 แคปซูล 500 mg. สมมุติว่ากินวันละ 8 แคปซูล ที่เค้าแนะนำกัน เช้า 2 แคปซูล กลางวัน 2 แคปซูล เย็น 2 แคปซูล ก่อนนอน. 2 แคปซูล ประมาณ 4-8 แคปซูล
คุณก็จะได้น้ำมันงาเข้าไปในตัวคุณ 4-5 กรัม
เราตีง่ายๆเป็น 5กรัมหรือ 5,000 mg
ในตัวเรามีเลือดประมาณ 6 ลิตร หรือ 6,000 ml.
เมื่อคำนวนออกมาแล้ว ไขมันปกติในเลือดจะมี
ไตรกลีเซอร์ไรด์ 150 mg./เลือด 100 ml.
ดังนั้นเมื่อคำนวนค่าตัวเลขทั้งหมดแล้ว ถ้าคุณกินน้ำมันงาดำ 4-8 แคปซูล/วัน คุณจะเพิ่มไขมันเข้าไปกว่า 50% ของระดับไขมันที่คุณมีอยู่ขณะนี้ ถ้าเรากินอาหาร เราก็กินไขมันเข้าไปแล้ว มันจะหายไปไหน?
ร่างกายเราก็จะมีขบวนการกำจัดไขมันให้มันหายไป ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือ 1ชั่วโมง ดีที่สุดคือ 3ชั่วโมง เราต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงที่จะเคลียร์ไขมันออกจากเลือดเรา
ดังนั้นพอคุณกินน้ำมันงาตอนเช้า 3ชั่วโมง ไขมันหายไปครึ่งหนึ่ง หรือ 70%-80% คุณก็ไปกินน้ำมันงาตอนกลางวันอีก มันก้ขึ้นไปอีก คุณก็ไปกินตอนเย็นอีก มันก็ขึ้นไปอีก
พอวันที่ 2 คุณก็กินเพิ่มเข้าไปอีก เพิ่มขึ้นไปอีก
ดังนั้นในความคิดเป็นของผม
"ผมจะไม่บริโภคน้ำมันงา เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร"
เข้าใจตรงกันนะครับ